การใช้กัญชาทางการแพทย์ในต่างประเทศ
การใช้กัญชาทางการแพทย์ เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมากในหลายประเทศทั่วโลก แต่ละประเทศมีกฎหมาย และแนวทางการใช้งานที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการวิจัยและนโยบายของแต่ละประเทศ ในบทความวันนี้ทาง SKY CANNABIS (Thailand) เราจะนำเสนอภาพรวมของ การใช้กัญชาทางการแพทย์ในต่างประเทศ จะเป็นอย่างไรนั้น เราไปดูกันได้เลยค่ะ
การใช้กัญชาทางการแพทย์ในต่างประเทศ เป็นอย่างไรบ้าง
หลายประเทศทั่วโลก มีการสนับสนุนให้ใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และการศึกษาวิจัยอย่างถูกกฎหมาย โดยแต่ละประเทศก็มีนโยบาย และรูปแบบการกำกับดูแลที่แตกต่างกันไป
อาทิ การจำกัดการใช้ที่เข้มงวดเฉพาะในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ยาสำเร็จรูปเท่านั้น บางประเทศอนุญาตให้ใช้ในตำรับของสมุนไพรรับประทาน หรือให้ใช้ส่วนของช่อดอกแห้งเพื่อสูบ บางประเทศอนุญาตให้ใช้ในรูปแบบของยาเตรียมที่ถูกปรุงขึ้นตามใบสั่งแพทย์สำหรับคนไข้เฉพาะรายเท่านั้น (magistral preparation) เช่น ขี้ผึ้งและน้ำมัน เป็นต้น นอกจากนี้ในบางประเทศยังอนุญาตให้ผู้ป่วยปลูกกัญชาเพื่อรักษาตัวเองได้อีกด้วย
การใช้กัญชาทางการแพทย์ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา ตามมาตรการทางกฎหมายและการวิจัยที่สนับสนุน และการรับรู้ถึงความเป็นไปได้ของการใช้กัญชาในการรักษาอาการทางการแพทย์
อุรุกวัย
ถือเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุญาตให้มีการจำหน่ายกัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์รวมถึงการใช้ในอุตสาหกรรม และสันทนาการได้อย่างถูกกฎหมาย
โดยในกฎหมายอนุญาตสิทธิการจำหน่ายนี้ให้เฉพาะร้านขายยาที่ได้รับใบอนุญาตเท่านั้น ปัจจุบันประเทศอุรุกวัยมีร้านขายยาที่สามารถจำหน่ายกัญชาได้เพียง 17 ร้าน โดยผู้ซื้อจำเป็นต้องลงทะเบียนกับหน่วยงานรัฐก่อนและต้องมาต่อคิวซื้อที่ร้านเอง ไม่สามารถซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ได้
นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้สามารถซื้อได้เพียงคนละ 10 กรัมต่อสัปดาห์เท่านั้น และมีการจำกัดระดับความแรงของกัญชา โดยปริมาณสาร THC ซึ่งออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทจะต้องสมดุลกับปริมาณสาร CBD กัญชาที่จำหน่ายตามร้านขายยาในอุรุกวัย จะมีความเข้มข้น 4 ระดับให้เลือกใช้ ราคาจำหน่ายถูกควบคุมโดยกฎหมายอยู่ที่ประมาณ 5 ปอนด์ (ประมาณ 210 บาท) ต่อยูนิต
รัฐบาลอุรุกวัย ไฟเขียวให้ภาคเอกชนสามารถปลูกและผลิตสาร THC เพื่อใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ และมีตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา เยอรมนี และประเทศอื่นๆ ในยุโรป
สหราชอาณาจักร
ปรับปรุงกฎหมาย the Misuse of Drugs Regulations 2001 เพื่ออนุญาตให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์ที่ยังไม่ผ่านการอนุมัติทะเบียนตำรับ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 โดยกฎหมายใหม่จะไม่จำกัดข้อบ่งใช้สำหรับการรักษา และแพทย์ไม่จำเป็นต้องขออนุมัติจากคณะผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาได้
ทั้งนี้การตัดสินใจสั่งจ่ายยากัญชาที่ยังไม่ได้รับอนุมัติทะเบียนตำรับเหล่านี้จะต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป (GP) และให้พิจารณาสั่งจ่ายเป็นรายกรณี เฉพาะเมื่อผู้ป่วยในกลุ่มที่ไม่ได้รับผลการรักษาที่น่าพอใจจากการใช้ผลิตภัณฑ์ยาอื่น ๆ ที่ผ่านการอนุมัติทะเบียนแล้วเท่านั้น
เนเธอแลนด์
มีการอนุญาตให้ใช้กัญชาได้ในสถานที่ที่รัฐอนุญาต และให้มีการซื้อขายกัญชาได้จากสถานที่ที่ได้รับอนุญาตและภายในปริมาณที่กำหนดตามกฎหมาย
ทั้งในรูปแบบสันทนาการและการใช้กัญชาในทางการแพทย์ โดยกฎหมายกำหนดให้สามารถจำหน่ายและเสพกัญชาได้ เฉพาะที่ Coffee Shops ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากเทศบาลท้องถิ่นโดยมีการควบคุมกัญชาให้มีปริมาณสาร THC ไม่เกินที่กำหนด
รวมถึงห้ามจำหน่ายกัญชาให้กับเด็กและเยาวชนโดยเด็ดขาด รวมถึงควบคุมไม่ให้มีการโฆษณาเกี่ยวกับกัญชาด้วย สำหรับการใช้กัญชาทางการแพทย์ ร้านขายยาสามารถจำหน่ายได้ตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น
สเปน
อนุญาตให้ประชาชนสามารถใช้กัญชาได้ในพื้นที่ส่วนตัว
เลโซโท
เป็นประเทศแรกในทวีปแอฟริกาที่อนุญาตให้มีการเพาะปลูกกัญชาเพื่อใช้ในทางการแพทย์ได้อย่างถูกกฎหมาย
อิตาลี
ออกกฎหมายให้สามารถใช้กัญชาทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยได้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 โดยในช่วงแรกนำเข้ากัญชาจากประเทศเนเธอแลนด์ ต่อมาจึงกำหนดให้กองทัพรับหน้าที่ปลูกและผลิตกัญชา โดยประชาชนสามารถซื้อกัญชาและผลิตภัณฑ์กัญชาตามใบสั่งแพทย์ได้จากร้านขายยาที่ได้รับอนุญาต
แคนาดา
อนุญาตให้ใช้กัญชาทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยได้ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1999 และอนุญาตให้มีการเสพเพื่อสันทนาการได้ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2018 สำหรับการใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ผู้ป่วยต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ และสามารถหาซื้อกัญชาทางการแพทย์ได้จากร้านขายยาที่มีใบอนุญาตจำหน่ายเท่านั้น
สำหรับการใช้ในเชิงสันทนาการ อนุญาตให้ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถครอบครองกัญชาในที่สาธารณะในปริมาณไม่เกิน 30 กรัม (ของกัญชาแห้ง) หรือรูปแบบอื่นๆ ที่เทียบเท่ากัน
ร้านที่ได้รับอนุญาตสามารถจำหน่ายกัญชาทั้งแบบแห้งหรือสด และน้ำมันกัญชา ในปริมาณที่ไม่เกิน 30 กรัม ให้แก่บุคคลอื่นที่อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ได้
นอกจากนี้ประชาชนยังสามารถปลูกกัญชาไว้ใช้เอง โดยใช้เมล็ดพันธุ์ หรือต้นกล้าที่ได้รับอนุญาตแล้ว และปลูกได้ไม่เกิน 4 ต้นต่อครอบครัว โดยต้องได้รับใบอนุญาตจากรัฐ อีกทั้งยังสามารถใช้กัญชาเป็นส่วนประกอบของอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องสำอางได้ โดยต้องมีปริมาณสาร THC ไม่เกินที่กำหนด
สหรัฐอเมริกา
อนุญาตให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์ได้แล้ว 33 รัฐ จากทั้งหมด 50 รัฐ โดยแต่ละรัฐจะมีรูปแบบการกำกับดูแลเฉพาะตัวแตกต่างกันไป ทั้งนี้ในภาพรวมคือ การใช้กัญชาทางการแพทย์ต้องมีใบสั่งแพทย์ และสามารถซื้อกัญชาทางการแพทย์ได้จากร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
เม็กซิโก
ออกกฎหมายเพื่ออนุญาตให้ใช้กัญชาทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยได้ ตั้งแต่เดือนเมษายน ค.ศ. 2017 ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอร่างกฎหมายที่จะอนุญาตให้กัญชาทางการแพทย์และสันทนาการอย่างถูกกฎหมาย โดยจะเสนอให้มีการอนุญาตให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป สามารถครอบครองและซื้อกัญชาจากผู้ค้าปลีกที่ได้รับใบอนุญาต รวมถึงสามารถปลูกกัญชาได้ 4 ต้น
แอฟริกาใต้
ผ่านกฎหมายให้ผู้ใหญ่สามารถปลูก ครอบครองและใช้กัญชาในพื้นที่ส่วนตัวได้ในปี ค.ศ. 2018
บราซิล
ออกกฎหมายให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ได้ใน ปี ค.ศ. 2014 โดยจำเป็นต้องมีใบสั่งแพทย์
เกาหลีใต้
อนุญาตให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์ได้ แต่มีการควบคุมอย่างเคร่งครัด
ออสเตรเลีย
ออกกฎหมายให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ได้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016 ภายใต้การกำกับดูแลที่เข้มงวด แพทย์สามารถสั่งจ่ายผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ที่ยังไม่ผ่านการอนุมัติทะเบียนตำรับให้แก่ผู้ป่วยได้ ภายใต้เงื่อนไขและข้อกำหนดหลายประการ
เช่น ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เฉพาะทาง และจะต้องพิสูจน์ว่ายาหรือวิธีการรักษาตามมาตรฐานที่มีอยู่ไม่สามารถทำให้ผู้ป่วยดีขึ้นได้ต้องมีการลงนามร่วมกันของแพทย์และผู้ป่วยเพื่อแสดงถึงการยอมรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้กัญชา
ทั้งนี้การสั่งจ่ายกัญชาดังกล่าวจะต้องได้รับอนุมัติจากหน่วยงานรัฐ โดยพิจารณาคำขอสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย ขณะนี้ประเทศออสเตรเลียตั้งเป้าเป็นผู้นำในการส่งออกสารสกัดกัญชาเพื่อการแพทย์ โดยแก้กฎหมายให้สามารถขายกัญชาไปยังตลาดต่างประเทศได้ (เช่นเดียวกับ แคนาดา เนเธอร์แลนด์ อุรุกวัย และอิสราเอล)
ความเปลี่ยนแปลงเรื่องกัญชาที่เกิดขึ้นรอบโลก
- จาไมกา และโปรตุเกส การซื้อขายกัญชายังผิดกฎหมายอยู่ แต่การมีกัญชาปริมาณเล็กน้อยในครอบครองไม่ผิดกฎหมาย
- เลบานอน อยู่ระหว่างพิจารณาการผลิตกัญชาเพื่อการแพทย์อย่างถูกกฎหมาย เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ
- มาเลเซีย มีผู้ถูกตัดสินประหารชีวิต เพราะขายน้ำมันกัญชา
- นิวซีแลนด์ อยู่ระหว่างเตรียมการจัดทำประชามติเรื่องการใช้กัญชาเพื่อการผ่อนคลายอย่างถูกกฎหมาย ภายใน 3 ปีข้างหน้า
จะเห็นได้ว่าหลายประเทศได้มีการขับเคลื่อนนโยบายการใช้กัญชาทางการแพทย์ในรูปแบบและทิศทางที่หลากหลาย ไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศ ที่เริ่มเข้าสู่ยุคการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างถูกกฎหมายในช่วงปีที่ผ่านมา จำเป็นต้องใช้หลักฐานเชิงประจักษ์จากการศึกษาวิจัยเพื่อเพิ่มความมั่นใจต่อทั้งประชาชนและวงการสาธารณสุขในการใช้ประโยชน์จากกัญชาในทางการแพทย์อย่างกว้างขวางต่อไป
ควรจำไว้ว่านี่เป็นประเทศที่ยอมรับการใช้กัญชาทางการแพทย์ และมีประโยชน์ต่าง ๆ ในการรักษาอาการทางการแพทย์ แต่การใช้กัญชาทางการแพทย์ยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายและคำแนะนำของแพทย์ที่เกี่ยวข้องในแต่ละประเทศ
สรุป
การใช้กัญชาทางการแพทย์ในต่างประเทศมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยหลายประเทศได้ออกกฎหมายและนโยบายเพื่อสนับสนุนการใช้กัญชาในการรักษาโรคต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม การใช้กัญชาทางการแพทย์ยังคงต้องการการวิจัยและการควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยได้รับประโยชน์และความปลอดภัยสูงสุด
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ท่านคงได้รู้เกี่ยวกับ การใช้กัญชาทางการแพทย์ในต่างประเทศ กันแล้วนะคะ หวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อ นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไปที่สนใจในเรื่องของการใช้กัญชา หวังว่าทุกคนจะได้รับความรู้จากบทความวันนี้กันนะคะ หากมีข้อผิดพลาดประการ ในทางแอดมิน ต้องขออภัย มา ณ ที่นี้ ด้วยค่ะ หากข้อมูลนี้เป็นประโยชน์ ฝากกดไลด์ กดแชร์ กดติดตาม SKY CANNABIS (Thailand) ของเราไว้ด้วยนะคะ เพื่อจะได้ไม่พลาดข้อมูลดี ๆ ที่เราจะนำมาฝากกันในทุก ๆ วัน วันนี้ก็ของลากันไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ
ขอบคุณที่มาข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
หากถูกใจ หรือ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ
ฝากกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามเพจของเราด้วยนะคะ
Facebook : บ้านหนองทองจันทร์ฟาร์ม หรือ Bannongthongchan Farm
หรือ สอบถามเพิ่มเติมผ่านช่องทางติดตามอื่น ๆ
Website: skycannabisthailand.com
Tel : 064-530-2826
LINE : Monkey Rolling หรือ LINE@ : Monkey Rolling Weed