ปลูกกัญชา Outdoor หรือ Indoor มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ปลูกกัญชา Outdoor หรือ Indoor เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นเรื่องดราม่ามากที่สุดเรื่องหนึ่งในวงการกัญชาว่าการปลูกแบบไหนดีกว่ากัน จริงๆแล้ว การปลูกกัญชา (กลางแจ้ง) และ (ในที่ร่ม) ทั้ง 2 แบบมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของนักปลูกไม่ว่าจะเป็น สถานที่ปลูก สภาพแวดล้อม ต้นทุนในการปลูก และอื่นๆ สำรวจ ข้อดีและข้อเสียของการปลูกกัญชา ทั้ง 2 แบบเพื่อให้ สามารถเลือกวิธีการปลูกได้เหมาะสม
การปลูกกลางแจ้ง (Outdoor)
การปลูกกัญชา Outdoor คือการปลูกกัญชากลางแจ้งเหมือนกับการปลูกพืชทั่วๆไป สามารถปลูกลงดินในสวนหลังบ้านหรือในกระถางริมระเบียงโดยให้พืชได้รับแสงจากดวงอาทิตย์และรับน้ำจากฝนที่ตกลงมาเป็นครั้งคราว การปลูกโดยไม่ได้ควบคุมปัจจัยภายนอกลักษณะนี้เรียกว่าการปลูก Outdoor การปลูก Outdoor เป็นการปลูกที่ Grower หลายๆคนกลัวเพราะไม่สามารถควบคุมชั่วโมงแสง
สารอาหารในดินหากปลูกลงดิน อุณหภูมิ ระดับ CO2 และความชื้น อย่างไรก็ตามเมื่อ ไม่สามารถควบคุมปัจจัยภายนอกอย่างเรื่องแสงแดดทำให้ ไม่สามารถควบคุมการออกดอกของต้นกัญชาได้เช่นกัน เนื่องจากต้นกัญชาโดยทั่วไปจะรับรู้ช่วงเวลาออกดอกก็ต่อเมื่อชั่วโมงแสงที่พืชได้รับเปลี่ยนไป ในประเทศไทยหาก ต้องการปลูก Outdoor ควรปลูกในเดือนกันยายน-ตุลาคม และต้นจะเข้าสู้ช่วงทำดอกในเดือนธันวาคม-มกราคม (ในช่วงทำดอกไม่ควรเป็นหน้าฝน) ในกรณีที่ ต้องการลดความยุ่งยากในการปลูก Outdoor ตามช่วงฤดูกาล สามารถปลูกกัญชา Auto ที่ออกดอกอัตโนมัติภายใน 3 เดือนจะง่ายที่สุด
ข้อดี การปลูกกลางแจ้ง (Outdoor)
- ต้นทุนต่ำ
- ผลผลิตสูง
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- อากาศถ่ายเทได้ดี
- มีพื้นที่ในการปลูกมากกว่า
- ไม่ต้องควบคุมปัจจัยในการเจริญเติบโตของพืช
ข้อ เสียการปลูกกลางแจ้ง (Outdoor)
- ควบคุมชั่วโมงแสงไม่ได้ควรปลูกตามฤดูกาล
- ควบคุมสารอาหารในดินไม่ได้หากปลูกลงดิน
- ป้องกันฝนได้ยากควรทำ GreenHouse
- ป้องกันแมลงได้ยาก
- ป้องกันเชื้อราได้ยาก
- ระบุปัญหาของพืชได้ยาก
การปลูกในที่ร่ม (Indoor)
การปลูกกัญชา Indoor คือการปลูกในที่ร่มพื้นที่ปิดไม่ว่าจะเป็นการปลูกในเต็นท์ ห้องปลูก หรือโรงเรือนระบบปิดที่สามารถควบคุม อุณหภูมิ กำลังแสง ชั่วโมงแสง สารอาหาร ความชื้น ระดับ CO2 น้ำที่พืชได้รับและการป้องกันแมลง นับได้ว่าควบคุมกระบวนการผลิตได้ทุกอย่างเลย การปลูกกัญชา Indoor สามารถปลูกได้ตลอดปีเพราะสามารถกำหนดให้พืชทำใบหรือทำดอกได้โดยการปรับชั่วโมงแสงที่พืชได้รับเท่านั้น
ช่วงทำใบเปิดไฟ 18 ชั่วโมงและปิดไฟ 6 ชั่วโมง ทำใบนานเท่าไหร่ก็ได้ เมื่อต้องการให้พืชทำดอกให้ปรับชั่วโมงแสงเป็นเปิดไฟ 12 ชั่วโมงและปิดไฟ 12 ชั่วโมงพืชจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการทำดอกภายใน 1-2 สัปดาห์ การปลูกในที่ร่มจะได้ผลผลิตที่ดีกว่าเพราะสามารถควบคุมกระบวนการผลิตได้ทั้งหมด โรงเรือนส่วนใหญ่เลือกปลูกแบบในที่ร่มเพื่อต้องการกัญชาทางการแพทย์ (Medical grade) แต่ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการปลูกกลางแจ้ง
ข้อดี การปลูกในที่ร่ม (Indoor)
- ผลผลิตคุณภาพสูง สะอาด ปลอดภัย
- เก็บเกี่ยวได้หลายรอบต่อปี
- ควบคุมปัจจัยในการเจริญเติบโตของพืชได้ทั้งหมด
- ป้องกันเชื้อราได้ง่ายกว่า
- ป้องกันแมลงได้ง่ายกว่า
- ปลอดภัยไม่มีคนขโมย
ข้อเสีย การปลูกในที่ร่ม (Indoor)
- ใช้ต้นทุนสูงในการเริ่มปลูก
- ค่าใช้จ่ายในการปลูกสูงโดยเฉพาะค่าไฟ
- มีการปลูกที่ซับซ้อนกว่า
- ต้องคอยดูแลรักษาทำความสะอาดอุปกรณ์การปลูก
- ต้องคอยตรวจเช็คระบบต่างๆภายในห้องปลูก
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า
ความแตกต่างระหว่างการปลูก กลางแจ้ง และ ในที่ร่ม
การปลูก Outdoor และ Indoor มีวิธีการปลูกที่แตกต่างกันย่อมให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันด้วย เรามาดูความแตกต่างระหว่างการปลูก Outdoor และ Indoor โดยทั่วไป
กลางแจ้ง (Outdoor)
- ใบสีเข้ม
- ดอกใหญ่
- ดอกหลวมกว่า
- ก้านใหญ่
- ไตรโคมไม่แน่น
ในที่ร่ม (Indoor)
- ดอกสีสดกว่า
- ดอกเล็กกว่า
- ดอกแน่น
- ก้านเล็ก
- ไตรโคมแน่น
หากถูกใจ หรือ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ
ฝากกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามเพจของเราด้วยนะคะ
Facebook : บ้านหนองทองจันทร์ฟาร์ม หรือ Bannongthongchan Farm
หรือ สอบถามเพิ่มเติมผ่านช่องทางติดตามอื่น ๆ
Website: skycannabisthailand.com
Tel : 064-530-2826
LINE : Monkey Rolling หรือ LINE@ : Monkey Rolling Weed