การปลูกกัญชากลางแจ้ง หรือระบบเปิด (Outdoor)

การปลูกกัญชากลางแจ้ง หรือระบบเปิด (Outdoor)

การปลูกกัญชานั้นมี 3 รูปแบบด้วยกัน การปลูกแบบ Indoor , การปลูกแบบ Outdoor และ การปลูกแบบ Greenhouse ท่านใดที่กำลังศึกษาวิธีในการปลูกกัญชาอยู่และยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะ ปลูกกัญชาแบบไหนดี ในวันนี้เรามาทำความรู้จักกับ รปลูกกัญชากลางแจ้ง หรือระบบเปิด (Outdoor) เพื่อที่จะได้รู้จักระบบการปลูกกัญชาให้มากขึ้น เราไปดูกันในบทความนี้กันเลยค่ะ

การปลูกกัญชากลางแจ้ง หรือระบบเปิด (Outdoor) คืออะไร

การปลูกกัญชา Outdoor คือ การปลูกกัญชากลางแจ้งเหมือนกับการปลูกพืชทั่ว ๆ ไป สามารถปลูกลงดินในสวนหลังบ้านหรือในกระถางริมระเบียงโดยให้พืชได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ และรับน้ำจากฝนที่ตกลงมาเป็นครั้งคราว การปลูกโดยไม่ได้ควบคุมปัจจัยภายนอกลักษณะนี้เรียกว่าการปลูก Outdoor

การปลูกกัญชา Outdoor เป็นการปลูกที่หลายๆ คนกลัว เพราะไม่สามารถควบคุมชั่วโมงแสง สารอาหารในดินหากปลูกลงดิน อุณหภูมิ ระดับ CO2 และความชื้น อย่างไรก็ตามเมื่อไม่สามารถควบคุมปัจจัยภายนอกอย่างเรื่องแสงแดดทำให้ไม่สามารถควบคุมการออกดอกของต้นกัญชาได้เช่นกัน เนื่องจากต้นกัญชาโดยทั่วไปจะรับรู้ช่วงเวลาออกดอกก็ต่อเมื่อชั่วโมงแสงที่พืชได้รับเปลี่ยนไป

ในประเทศไทยหากต้องการปลูก Outdoor ควรปลูกในเดือนกันยายน – ตุลาคม และต้นจะเข้าสู้ช่วงทำดอกในเดือนธันวาคม – มกราคม (ในช่วงทำดอกไม่ควรเป็นหน้าฝน) ในกรณีที่ต้องการลดความยุ่งยากในการปลูก Outdoor ตามช่วงฤดูกาล สามารถปลูกกัญชา Auto ที่ออกดอกอัตโนมัติภายใน 3 เดือนจะง่ายที่สุด

การเลือกสายพันธุ์กัญชาสำหรับ การปลูกกัญชากลางแจ้ง Outdoor

ในการปลูกสำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ยังไม่มีความชำนาญ ในการปลูกกัญชาแบบ Outdoor ควรเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะกับสภาพอากาศ อุณหภูมิและช่วงเวลาที่จะทำการปลูก ความทนต่อแมลงหรือศัตรูพืชได้ดี

การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์กัญชาที่จะนำมาใช้ควรเป็นเมล็ดที่ใหม่สด เมล็ดดูดี้ แข็งแรง สายพันธุ์ดี ขนาดของความสูงของสายพันธุที่จะใช้ดูจากสถานที่ที่ปลูกว่ามีพื้นที่เหมาะสมหรือไม่

สำหรับความสูงของต้นกัญชาที่จะปลูกการปลูกกัญชาแบบ Outdoor สายพันธุ์ที่หมาะสมจะเป็นสายพันธุ์กัญชาประเภท Photo และเป็นชนิดสายพันธุ์กัญชา Sativa หรือ Hybrid เพราะต้นกัญชาจะสูงใหญ่ ให้ผลผลิตสูง และทนต่อสภาพอากาศร้อนของประเทศไทยได้ดี

ปัจจัยสำคัญในการปลูกกัญชากลางแจ้ง

ความสำคัญของน้ำ สำหรับปลูกกัญชา

น้ำ

ความสำคัญของน้ำ สำหรับปลูกกัญชา

น้ำเป็นส่วนประกอบที่มีมากที่สุดในต้นกัญชา น้ำมีบทบาทในการทำละลาย และจะละลายแร่ธาตุอาหารต่าง ๆ และลำเลียงสารอาหารที่ยังไม่ผ่านการปรุง ส่งไปที่ใบพืชเพื่อให้ใบพืชทำการปรุงเป็นอาหารสำเร็จ จากนั้นลำเลียงส่งไปยังส่วนต่าง ๆ ของพืช เพื่อสร้างส่วนที่เป็น ราก ลำต้น กิ่งก้าน ใบ ดอก และเกิดเป็นผลผลิตต่อไป

ดังนั้นต้องมีแหล่งน้ำที่ดี เพียงพอและอยู่ไม่ไกล ไร้สารพิษไม่มีโลหะหนักและสารเคมี ไม่ว่าจะเป็นยาฆ่าหญ้า หรือ ยาฆ่าแมลง ระบบน้ำเข้าถึงและสะดวกในการเคลื่อนย้ายน้ำมารดน้ำต้นไม้ และควรตรวจเช็คค่า pH ของน้ำที่ใช้รดให้อยู่ที่ 5.5 – 6.5 สม่ำเสมอ

พืชสกุลกัญชาต้องการความชื้นมากที่สุดในช่วง 6 สัปดาห์แรก เนื่องจากเป็นช่วงที่เมล็ดกำลังงอก และเมื่อหลังจาก 6 สัปดาห์หลังการงอกจากเมล็ด พืชสกุลกัญชาสามารถทนต่อการสภาพแห้งแล้งได้ เนื่องจากต้นพืชสกุลกัญชามีรากที่สามารถหยั่งลึกลงในดิน 2-3 เมตร

ทำให้สามารถหาความชื้นที่สะสมอยู่บริวณดังกล่าว อย่างไรก็ตามการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งรุนแรง ส่งผลให้การเจริญเติบโตลดลงและแคระแกรน โดยทั่วไปพืชสกุลกัญชาต้องการปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 500-600 มิลลิเมตรต่อวงจรชีวิต

โดยต้องการปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 250-350 มิลลิเมตร ในช่วงระยะการเจริญเติบโตทางลำต้นซึ่งความต้องการน้ำของพืชสกุลกัญชามีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพันธุ์ของพืชสกุลกัญชา ดิน สภาพอากาศ และการจัดการภายในแปลง

แสงสำหรับ การปลูกกัญชากลางแจ้ง

แสง

ความสำคัญของแสง สำหรับปลูกกัญชา

การปลูกกัญชา Outdoor ต้องใช้แสงของดวงอาทิตย์เป็นหลัก บริเวณที่ปลูกควรเป็นที่โล่ง ไม่มีร่มเงาบังแสง ต้นกัญชาต้องการแสงสว่างอย่างเพียงพอ กัญชาเป็นพืชวันสั้น ความสั้น-ยาวของวันสัมพันธ์กับปริมาณแสงได้รับในแต่ละวัน ซึ่งปริมาณแสงที่ต้นพืชสกุลกัญชาได้รับแสงต่อวันมีผลต่อการพัฒนาจากระยะการเจริญเติบโตทางลำต้นไปสู่ระยะออกดอก

ดังนั้นการวางแผนการปลูกที่เหมาะสมตามช่วงเวลาสั้น-ยาวของวัน จะทำให้พืชสกุลกัญชาที่ปลูกมีผลผลิตสูงเนื่องจากต้นพืชสกุลกัญชามีช่วงเวลาการเจริญเติบโตทางลำต้นที่ยาวนานเพียงพอ ทำให้สามารถผลิตช่อดอกหรือผลผลิตที่เพิ่มขึ้น

แสงแดดถือเป็นแหล่งพลังงานของต้นกัญชาที่จะนำไปใช้ปรุงอาหารเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของต้นทำให้ทุกส่วนของต้นกัญชา (ราก,ลำต้น, กิ่งก้าน, ใบ, ดอก) มีการขยายตัวเพิ่มและมีจำนวนหรือ ปริมาณมากขึ้น กัญชาประเภทไวแสง (Photo) มีวงจรชีวิตตามชั่วโมงของแสง ถ้าได้รับแสงมากกว่า 12 ชม.ขึ้นไป ต้นกัญจะไม่ออกดอกสืบพันธุ์ แต่เมื่อใดที่ได้รับแสงต่ำกว่า 12 ชม. ก็จะออกดอกสืบพันธุ์

เพราะฉะนั้นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกัญชาประเภท Photo คือช่วงที่มีแสงมากกว่า 12 ชม. ซึ้งจากข้อมูล “ปริมาณชั่วโมงของแสงที่ได้รับในช่วงเวลากลางวันของประเทศไทย” จะเป็นช่วงกลางเดือนมีนาคม การปลูกช่วงนี้จะทำให้ต้นกัญชามีเวลาทำใบมากขึ้น ทำให้ต้นใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้นไปด้วย

ในช่วงออกดอกกัญชาจะมีความต้องการแสงที่เข้มข้น เพราะแสงเป็นสิ่งที่ช่วยในการผลิตดอก เพื่อให้ได้คุณภาพผลผลิตดีที่สุด ควรให้ดอกสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง จะทำให้ดอกของพืชอวบอ้วนมากขึ้นกว่าดอกที่อยู่ใต้ใบและไม่โดนแสง

ความสำคัญของดิน สำหรับ การปลูกกัญชากลางแจ้ง

ดิน

ความสำคัญชองดิน สำหรับปลูกกัญชา

ดินเป็นมวลที่ยึดเกาะของต้นพืช ทำให้ต้นพืชตั้งต้นอย่างมั่นคง และยังเป็นแหล่งอาหารที่ยังไม่ผ่านการปรุง ของต้นพืชด้วย และช่วยรักษาความชื้น กักเก็บธาตุอาหารต่าง ๆ เอาไว้

ดินสำหรับปลูกกัญชาให้สามารถเจริญเติบโตได้ดีควโครงสร้างร่วนซุย (Loose) ระบายน้ำได้ดี และมีอินทรีย์วัตถุสูง ซึ่งสภาพดินที่หมาะสมควรมีค่าความเป็นกรด-ด่าง อยู่ระหว่าง 5.5 -6.5 และเนื้อดินที่เหมาะสมในการปลูก คือ เนื้อดินร่วนปนทราย (Sandy loam) แต่เนื้อดินที่ควรหลีกเลี่ยง คือ ดินเหนียวจัด (Heavy clay) เนื่องจากมีการระบายน้ำ และอากาศไม่ดี และ ดินทราย (Sandy soil) มีข้อจำกัดเรื่องของการอุ้มน้ำ เก็บน้ำไม่อยู่ทำให้สภาพของดินแห้ง

พื้นที่ปลูกกัญชาสภาพดินไม่ควรมีชั้นดานภายในแปลง นอกจากจะทำให้รากของกัญชาเมื่อเจริญไปถึงชั้นดานรากจะมีลักษณะเป็นรูปตัว L ทำให้ประสิทธิภาพการดูดใช้น้ำ และธาตุอาหารลดลง นอกจากนี้ชั้นดานส่งผลให้เกิดการระบายน้ำไม่ดี เกิดสภาพน้ำขังใต้ผิวดิน (water logging) ทำให้ต้นกัญชาภายในแปลงเกิดรากเน่า โดยเฉพาะในช่วงระยะต้นกล้า

ความลาดชัน

ความสำคัญของความลาดชัน สำหรับปลูกกัญชา

ความลาดชันเป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ในการจัดการแปลงและการเก็บเกี่ยว โดยพื้นที่ที่มีความลาดชันมากกว่า 35% ไม่ควรปลูกพืชสกุลกัญชา เนื่องจากจะทำให้มีปัญหาในการเก็บเกี่ยว และความลาดชันในอุดมคติที่เหมาะสมกับการปลูกกัญชา คือ ความลาดชันที่ 5% เนื่องจากหากมีความลาดชันเกิน 5% จะทำให้เกิดการชะล้างหน้าดินในช่วงฤดูฝน

อากาศ สำหรับการปลูกกัญชา

อากาศ

ความสำคัญของอากาศ สำหรับปลูกกัญชา

ต้นพืชใช้คาร์บอนไดออกไซด์ และพลังงานแสงแดด สร้างคาร์โบไฮเดรตเพื่อการเจริญเติบโต คาร์บอนไดออกไซด์นั้นคือวัตถุดิบตัวหนึ่งที่มีความสำคัญกับการเจริญเติบโตของพืชเรียกว่าปุ้ยอากาศธาตุก็ว่าได้เพราะ CO2 จะถูกกระบวนการนี้แยกแยะเอา C ออกมารวมกับสารตัวอื่น และสร้างตัวเป็นอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล จากนั้นจึงขับเอา O2 และน้ำออกไปในบรรยากาศ ถ้าบรรยากาศที่ใดมีความเข้มข้นของ CO2 สูง พืชในบริเวณนั้นก็จะโตไวมากกว่าบริเวณอื่นที่มีความเข้มข้นของ CO2 ต่ำ

อากาศ มีส่วนช่วยในการหายใจของพืช พืชจะใช้ CO2 และปล่อย O2 ในการหายใจ หรือสังเคราะห์แสงตอนกลางวัน และใช้ O2 ปล่อย CO2 ในตอนกลางคืน ไม่เพียงแต่ต้นไม้ที่ต้องการอากาศ จุลินทรีย์ในดินยังต้องการเช่นกัน ดังนั้นอากาศจึงมีความสำคัญกับการเจริญเติบโตของพืชรวมไปถึงความชื้นที่หมาะสมแต่ละช่วงของการเจริญเติบโต ก็จะทำให้พืชเติบโตได้อย่างสมบูรณ์

ข้อดีข้อเสียของการปลูกกัญชากลางแจ้ง

ข้อดีข้อเสียของการปลูกกัญชาแบบกลางแจ้ง

ข้อดี

  1. ต้นทุนต่ำ
  2. ผลผลิตสูง
  3. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  4. อากาศถ่ายเทได้ดี
  5. มีพื้นที่ในการปลูกมากกว่า
  6. ไม่ต้องควบคุมปัจจัยในการเจริญเติบโตของพืช

ข้อเสีย

  1. ควบคุมชั่วโมงแสงไม่ได้ควรปลูกตามฤดูกาล
  2. ควบคุมสารอาหารในดินไม่ได้หากปลูกลงดิน
  3. ป้องกันฝนได้ยากควรทำ GreenHouse
  4. ป้องกันแมลงได้ยาก
  5. ป้องกันเชื้อราได้ยาก
  6. ระบุปัญหาของพืชได้ยาก

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อนๆ ท่านคงได้เข้าใจเกี่ยวกับการปลูกกัญชากลางแจ้ง หรือระบบเปิด (Outdoor) แล้ว จากข้อมูลที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ หากมีข้อผิดพลาดประการ ในทางแอดมิน ต้องขออภัย มา ณ ที่นี้ ด้วยค่ะ หากข้อมูลนี้เป็นประโยชน์ ฝากกดไลด์ กดแชร์ กดติดตาม skycannabisthailand ของเราไว้ด้วยนะคะ เพื่อจะได้ไม่พลาดข้อมูลดี ๆ ที่เราจะนำมาฝากกันในทุก ๆ วัน วันนี้ก็ของลากันไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ

ที่มาข้อมูล : thaihometown


หากถูกใจ หรือ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ

ฝากกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามเพจของเราด้วยนะคะ

Facebook : บ้านหนองทองจันทร์ฟาร์ม หรือ Bannongthongchan Farm

หรือ สอบถามเพิ่มเติมผ่านช่องทางติดตามอื่น ๆ

Website: skycannabisthailand.com

Tel :  063-649-5638 หรือ 064-530-2826 

LINE : Monkey Rolling หรือ LINE@ : Monkey Rolling Weed